แรงกดดันข่าวลือรีดภาษีเทรดหุ้น กดดัชนีร่วง -6.98 จุด

เรื่องที่น่าสนใจ

หุ้นไทยปิดตลาด -6.98 จุด โบรกชี้แรงกดดันจากกระแสข่าวเก็บภาษีขายหุ้น ทำให้เกิดแรงเทขายบางส่วนออกมา อีกทั้ง แนวโน้มผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง คาดจะกดดัชนีเสี่ยงหลุด 1,610 จุดได้ มองกรอบการลงทุนพรุ่งนี้ ประเมินแนวรับ 1,610 จุด และส่วนแนวต้าน 1,630 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ปรับตัวลดลง -6.98 จุด หรือ -0.43% โดยปิดที่ 1,623.66 จุด มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 63,107.29 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ ดัชนี SET INDEX แกว่งตัวอยู่ในแนวลบตลอดทั้งวันตั้งแต่เปิดตลาดจนกระทั่งปิดตลาด โดยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,630.89 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,622.49 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 454 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 577 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,069 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 1,497.99 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 603.30 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,148.19 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -953.10 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.JAS มูลค่าการซื้อขาย 4,630.49 ล้านบาท ปิดที่ 3.38 บาท ลดลง 0.32 บาท
2.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,377.87 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,526.18 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,457.93 ล้านบาท ปิดที่ 37.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,327.47 ล้านบาท ปิดที่ 138.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.COM7 ปิดที่ 79.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 1.60%
2.STA ปิดที่ 29.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.85%
3.TVO ปิดที่ 30.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.83%
4.CENTEL ปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.75%
5.RATCH ปิดที่ 44.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.56%

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 430.00 บาท ลดลง 10.00 บาท หรือ -2.27%
2.SCC ปิดที่ 375.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 0.79%
3.TQM ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -2.83%
4.BH ปิดที่ 141.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.74%
5.PTTEP ปิดที่ 118.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.25%

ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,205.46 จุด ลดลง -15.24 จุด หรือ -0.69% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 964.12 จุด ลดลง -7.01 จุด หรือ -0.72% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 570.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด หรือ 0.14%

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นในหลายประเทศแกว่งแคบ โดยดัชนีเคลื่อนไหวขึ้นลงประมาณ 0.5% ระหว่างรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนนี้ ซึ่งเบื้องต้นมองว่าอาจใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น โดยมีการพูดกันถึงในปี 2565 เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง จากเดิมตลาดคาดปรับขึ้น 2 ครั้ง หากเป็นจริงจะเกิด Downside ตลาด ดัชนีอาจหลุด 1,610 จุดไปเลย ดังนั้นตลาดจึงมีความกังวลและเลือกขายออกมาก่อน

นอกจากนี้ ยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศจากกระแสข่าวทางการจะหยิบยกการเรียกเก็บภาษีจากขายหุ้นมาพิจารณาอีกครั้ง จึงต้องจับตาว่ากระทรวงการคลังจะอนุมัติหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามความชัดเจน

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ มองว่าทิศทางตลาดจะขึ้นอยู่กับผลประชุมเฟด พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด